ความรู้เกี่ยวกับ Electromagnetic meter จากผู้ผลิต
เครื่องวัดอัตราการไหลแบบแม่เหล็กไฟฟ้า หรือ ที่เรียกกันว่า Electromagnetic meter เป็นโซลูชันที่เชื่อถือได้และแม่นยำในการวัดการไหลของของเหลวที่นำไฟฟ้าภายในท่อแรงดัน ซึ่งใช้งานได้หลากหลายภาคส่วน ทั้งอุตสาหกรรมและงานโยธา ในบทความนี้เราจะพาคุณไปกทำความเข้าใจหลักการทำงานของเครื่องวัดอัตราการไหลประเภทนี้ ข้อดีที่สำคัญ รวมถึงตัวอย่างการใช้งานทั่วไป ช่วยให้คุณเข้าใจและเลือกใช้งานได้อย่างง่ายดาย ที่คุณไม่ควรพลาด
Electromagnetic meter มีหลักการทำงานอย่างไร?

หลักการทำงานของเครื่องวัดอัตราการไหลประเภท อิงตามกฏของฟาราเดย์ (Faraday’s law) หรือกฏการเหนี่ยวนำแม่เหล็กไฟฟ้า ซึ่งกล่าวว่า เมื่อของเหลวที่นำไฟฟ้าไหลผ่านสนามแม่เหล็ก จะเกิดแรงดันไฟฟ้าขึ้น โดยแรงดันนี้จะแปรผันตามความเร็วของของเหลวชนิดนั้น สูตรการคำนวณคือ
E = k x B x D x V โดย
- E คือ แรงดันไฟฟ้าที่เหนี่ยวนำขึ้น
- V คือ ความเร็วของของเหลว
- B คือ สนามแม่เหล็ก
- D คือ เส้นผ่านศูนย์กลางของท่อ
- k คือ ค่าเชิงสัมประสิทธิ์ (Co-efficient) ที่รวมปัจจัยต่างๆของตัวเครื่องที่ผู้ผลิตกำหนดจากการออกแบบ เพื่อแปลงแรงดันไฟฟ้าที่วัดได้ ให้สัมพันธ์กับความเร็วของไหล
ภายในเซ็นเซอร์จะมีอิเล็กโทรดสองขั้วอยู่คนละด้านของท่อ ทำหน้าที่ตรวจจับแรงดันไฟฟ้าที่เกิดขึ้น จากนั้นสัญญาณนี้จะถูกส่งไปยังตัวประมวลผล (Converter) เพื่อคำนวณความเร็วของของไหล และแปลงเป็นอัตราการไหล (flow rate) แบบปริมาตร ทั้งนี้ เพื่อการใช้งานที่ให้ได้ผลที่แม่นยำ จำเป็นต้องให้ของเหลวเต็มท่อและต้องเป็นของเหลวที่นำไฟฟ้าได้เท่านั้นครับ
ข้อดีที่เหมาะกับการใช้งานมีอะไรบ้าง?
ต่อไปนี้คือจุดเด่นหลักของเครื่องวัดอัตราการไหลแบบแม่เหล็กไฟฟ้า
- มีความแม่นยำสูง แม้ในสภาวะการทำงานที่วิกฤต
- ไม่มีชิ้นส่วนที่เคลื่อนไหว ทำให้บำรุงรักษาง่ายและมีอายุการใช้งานยาวนาน
- เหมาะสำหรับของเหลวที่มีอนุภาคแข็ง และไม่มีข้อจำกัดด้านความหนืดของของเหลว
- สำหรับรุ่นแบบ full-bore จะไม่มีการสูญเสียแรงดัน เพราะของไหลสามารถไหลผ่านได้โดยไม่มีสิ่งกีดขวาง
- สำหรับรุ่น insertion สามารถติดตั้งกับท่อที่มีขนาดเส้นผ่านศูนย์กลางได้หลากหลายขนาด
อย่างไรก็ตาม เครื่องวัดอัตราการไหลชนิดก็มีข้อจำกัดบางประการที่ควรพิจารณาเมื่อต้องเลือกใช้งานในแต่ละกรณี
- ใช้ได้เฉพาะกับของเหลวที่มีคุณสมบัตินำไฟฟ้าเท่านั้น จึงไม่เหมาะกับการวัดน้ำบริสุทธิ์หรือน้ำมันที่ไม่นำไฟฟ้า
- รุ่นแบบ Full-bore แม้มีข้อดีด้านการดูแลรักษาน้อย แต่มีต้นทุนการติดตั้งเริ่มต้นที่สูงกว่ามิเตอร์ประเภทอื่น เช่น แบบ insertion หรือแบบ clamp-on
และด้วยความหลากหลายในการใช้งาน เครื่องวัดอัตราการไหลแบบแม่เหล็กไฟฟ้าจึงถูกนำไปใช้งานในหลายอุตสาหกรรม เช่น การบำบัดน้ำเสีย อุตสาหกรรมเคมี อุตสาหกรรมอาหารและเครื่องดื่ม ภาคพลังงาน และการวัดปริมาณเพื่อการค้าสำหรับรุ่นที่ผ่านการรับรองมาตรฐาน MID หรือ OIML นอกจากนี้ ในอุตสาหกรรมเหมืองแร่ เครื่องวัดอัตราการไหลประเภทนี้มักเป็นทางเลือกเดียวที่มีปนะสิทธิภาพในการวัดของไหลประเภทสารละลายแร่ที่มีตะกอนแขวนลอย หรือ ของผสมระหว่างทรายกับน้ำ
อะไรคือสาเหตุหลักของ error จากการวัดโดยเครื่องวัดประเภทนี้?
ความคลาดเคลื่อนหรือ error ในการวัดของเครื่องวัดอัตราการไหลแบบแม่เหล็กไฟฟ้าอาจเกิดขึ้นได้จากหลายปัจจัย ซึ่งมักเกี่ยวข้องกับการติดตั้งหรือคุณสมบัติของของเหลว หนึ่งในสาเหตุที่พบบ่อยที่สุดคือการมีฟองอากาศปนอยู่ในของเหลวซึ่งอาจทำให้เกิดการขาดการสัมผัสระหว่างของเหลวกับขั้วไฟฟ้า ส่งผลให้ค่าที่วัดได้ไม่เสถียรหรือไม่ถูกต้อง
คราบสะสมหรือการเกิดตะกรันที่ขั้วไฟฟ้าก็อาจรบกวนการตรวจจับได้เช่นกัน อีกสาเหตุของค่าที่ไม่แม่นยำคือค่าการนำไฟฟ้าของของเหลวที่ต่ำเกินไป โดยเครื่องวัดประเภทนี้ต้องการค่าการนำไฟฟ้าขั้นต่ำ (ปกติ > 5 uS/cm) เพื่อให้สามารถทำงานได้อย่างถูกต้อง
นอกจากนี้ ยังอาจเกิดข้อผิดพลาดได้จากการติดตั้งที่ไม่เหมาะสม เช่นการติดตั้งในตำแหน่งที่ท่อไม่เต็มของเหลว หรือใกล้โค้งงอของท่อมากเกินไป ซึ่งอาจทำให้เกิดความปั่นป่วนของการไหลและเปลี่ยนแปลงรูปแบบความเร็วของของไหล
สุดท้ายคือการรบกวนทางไฟฟ้าจากมอเตอร์หรือสายไฟแรงสูงใกล้เคียงก็อาจมรผลต่อสัญญาณไฟฟ้าที่เครื่องวัดสร้างขึ้น ส่งผลต่อความแม่นยำของการวัด ดังนั้นเพื่อหลีกเลี่ยงข้อผิดพลาดเหล่านี้ ควรปฏิบัติตามคำแนะนำของผู้ผลิตในการติดตั้ง และเลือกใช้เครื่องวัดที่เหมาะสมกับลักษณะการใช้งานเฉพาะทางนั้นๆ
จะเลือก electromagnetic flow meter ได้อย่างไร?
หลังจากที่เข้าใจหลักการทำงาน ข้อดี และการใช้งานของเครื่องวัดอัตราการไหลแบบแม่เหล็กไฟฟ้าแล้ว สิ่งสำคุญต่อไปคือการเลือกใช้รุ่นที่เหมาะสมกับความต้องการของคุณ โดยการเลือกใช้งานจะขึ้นอยู่กับหลายปัจจัย เช่น ประเภทของของเหลวที่ต้องการวัด สภาพแวดล้อมในการทำงาน และข้อกำหนดเฉพาะของแต่ละแอปพลิเคชัน
ในการเลือกที่เหมาะสม ควรพิจารณาขนาดเส้นผ่านศูนย์กลางของท่อ อุณหภูมิของของไหล ความดันการทำงาน รวมถึงวัสดุของซับในและอิเล็กโทรดภายในเครื่อง ซึ่งต้องเข้ากันได้กับของเหลวที่วัด เพื่อป้องกันการกัดกร่อนหรือการปนเปื้อน นอกจากนี้ ความแม่นยำที่ต้องการ และฟีเจอร์เสริมต่าง ๆ เช่น ระบบสื่อสารดิจิทัล การเชื่อมต่อกับระบบควบคุม หรือ certificate standard ก็เป็นองค์ประกอบที่มีผลต่อการตัดสินใจเลือกซื้อ
การปรึกษาผู้เชี่ยวชาญจากผู้จัดจำหน่ายที่มีประสบการณ์ ไม่เพียงช่วยให้คุณเลือกอุปกรณ์ที่เหมาะสมที่สุด แต่ยังได้รับการสนับสนุนด้านเทคนิคที่มีคุณภาพ เพื่อให้การติดตั้งและใช้งานอุปกรณ์เป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพสูงสุด
คุณได้สำรวจผลิตภัณฑ์เครื่องมือวัดจาก ISOMAG หรือยัง?
ISOIL Industria เป็นผู้นำระดับโลกในการผลิตเครื่องวัดการไหล (flow meter) หากคุณกำลังมองหา เครื่องวัดการไหลแม่เหล็กไฟฟ้า เครื่องวัดอัตราการไหลภายใต้แบรนด์ ISOMAG ถูกออแบบมาเพื่อตอบสนองความต้องการการใช้งานที่ซับซ้อนที่สุดของคุณ ในรุ่นที่มีให้เลือก คือเซนเซอร์แบบหน้าแปลน MS2500 ซึ่งทางเลือกอเนกประสงค์ที่เหมาะกับการใช้งานและช่วงการไหลทุกรูปแบบ มีขนาดเส้นผ่านศูนย์กลางตั้งแต่ DN 25 ถึง DN 300 ตัวเครื่องเซ็นเซอร์ผลิตจากเหล็กคาร์บอน หรือสแตนเลส 304/316 สามารถใช้ได้กับของเหลวที่มีอุณหภูมิระหว่าง -20 ถึง +180°C
อีกหนึ่งรุ่นที่โดดเด่นคือเซ็นเซอร์แบบ insertion MS3810 ซึ่งออกแบบสำหรับการติดตั้งบนท่อที่มีแรงดัน ตั้งแต่ขนาดเส้นผ่านศูนย์กลาง 80 ถึง 8000 มม. เหมาะสำหรับการใช้งานแบบชั่วคราว การตรวจสอบท่อ และการตรวจจับการรั่วไหล เซ็นเซอร์มีความยาวให้เลือกหลากหลายสำหรับการติดตั้งในท่อที่มีขนาดแตกต่างกัน สามารถใช้กับของเหลวที่มีอุณหภูมิระหว่าง 0 ถึง 100°C และแรงดันสูงสุด 25 บารื
ในน้ำประปาระบบ HVAC และโรงงานทำความเย็น เซ็นเซอร์ MS1000 แบบ wafer เป็นที่นิยมมาก ติดตั้งง่ายเนื่องจากไม่มีหน้าแปลน สามารถแทรกเข้าระหว่างข้อต่อชนิดต่างๆ ได้ (UNi, DIN, ANSI, JIS เป็นต้น) มีขนาดเส้นผ่านศูนย์กลางตั้งแต่ DN25 ถึง DN400



เครื่องวัดอัตราการไหล ISOMAG ทุกเครื่องผ่านการสอบเทียบด้วยมาตรฐาน ISO17025 และรับประกันความแม่นยำเดิมตลอดอายุการใช้งานเมื่อใช้งานตามข้อกำหนดทางเทคนิค
หากต้องการข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับ magnetic flow meter หรืออุปกรณ์อื่นๆ สามารถติดต่อผู้เชี่ยวชาญของเราได้ทันทีครับหรือดูสินค้าจากแบรนด์อื่นได้เลย